เทคนิคการเลือกซื้อรถยกของ (FORKLIFT) เลือกอย่างไรให้ได้ของดี

Auto Expert Opinion  > Automotive >  เทคนิคการเลือกซื้อรถยกของ (FORKLIFT) เลือกอย่างไรให้ได้ของดี
เทคนิคการเลือกซื้อรถยกของ

รถยกของไม่ว่าจะเป็น รถโฟล์คลิฟท์ รถเครน หรือรถกระเช้า ล้วนมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกัน อย่างรถโฟล์คลิฟท์จะใช้งานในภาคพื้นดิน สามารถยกสินค้าได้ไม่สูงมากนัก แต่ด้วยขนาดรถที่กระทัดรัดจึงสามารถเข้าไปทำงานในพื้นที่คับแคบได้ดี ส่วนรถเครนและรถกระเช้าจะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ ใช้สำหรับงานยกสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะและยกขึ้นที่สูงมาก ๆ อย่างงานก่อสร้างอาคารหรืองานซ่อมแซมเสาไฟฟ้า เป็นต้น โดยการเลือกซื้อรถยกไม่ว่าชนิดใดจะมีปัจจัยหลักที่เป็นเทคนิคการเลือกซื้อดังต่อไปนี้

รู้ก่อนเลือกกับ 4 เทคนิคง่าย ๆ สำหรับเลือกซื้อรถยกของ

                รถยกของแต่ละชนิดไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ล้วนมีราคาสูง ต่อให้เป็นรถมือสองก็ยังจัดอยู่ในราคาที่ต้องคิดให้รอบคอบ การซื้อรถมาใช้งานต้องมีความคุ้มค่ากับการลงทุน โดยปัจจัยหลักในการเลือกซื้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้

1. ความต้องการของตัวเอง

                ก่อนเลือกซื้อรถยกสักคัน อันดับแรกต้องเข้าใจความต้องการของตัวเองก่อนว่าต้องการซื้อมาเพื่อใช้งานอะไร เช่น หากใช้ยกของในโกดังหรือในตู้คอนเทนเนอร์ควรใช้รถโฟล์คลิฟท์ หากต้องการใช้ยกเสาปูนหรือแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ควรใช้รถเครน เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องรู้จักหน้างานของตัวเองว่ามีพื้นผิวและสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร เพื่อการจัดสมดุลน้ำหนักในการใช้งาน เช่น พื้นที่หน้างานไม่เรียบเป็นหลุมเยอะ การใช้รถโฟล์คลิฟท์จะต้องใช้ความระมัดระวังในการโหลดสินค้าเพราะรถมีโอกาสพลิกคว่ำได้ง่าย หรือหากหน้างานมีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ มีสายไฟ หรือเสาไฟฟ้า การเลือกใช้แขนของรถเครนต้องคำนวณให้พอดี ไม่เช่นนั้นแขนของเครนมีโอกาสที่จะเกี่ยวหรือติดขณะใช้งานก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. จัดสรรงบประมาณ

                เมื่อได้ทราบถึงความต้องการใช้งานของตัวเองแล้ว ลำดับต่อมาต้องจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม เพราะรถยกของมีราคาสูง การเตรียมงบประมาณจำเป็นต้องมีเงินทุนหลักแสนถึงล้านบาท ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ หากต้องการใช้งานไม่บ่อย ใช้งานเป็นครั้งคราว ควรเลือกวิธีการเช่ารถกับบริษัทที่ให้บริการ แต่ถ้าหากต้องการใช้งานบ่อยเป็นประจำควรเลือกซื้อรถเป็นของตัวเอง โดยพิจารณาจากเงินทุนว่าควรเริ่มต้นที่รถมือหนึ่งหรือมือสอง

3. เลือกซื้อผู้จำหน่ายที่ได้มาตรฐาน

รถที่เลือกซื้อควรมีประกันและการให้บริการหลังการขายจากผู้จำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง หากซื้อจากร้านที่ดีมีมาตรฐาน การรับประกันจะสร้างความคุ้มค่าและความพึงพอใจ แต่ถ้าหากเลือกซื้อจากร้านที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่มีที่ตั้งชัดเจน ช่องทางติดต่อมีน้อย ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รถคุณภาพไม่ดี หรือไม่มีบริการหลังการขาย ซึ่งการเลือกร้านที่ได้มาตรฐานต้องใช้เวลาในการเปรียบเทียบและการตรวจสอบ ซึ่งทำได้ไม่ยากหากร้านนั้น ๆ มีเว็บไซต์ ก็เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ของทางร้าน เพื่อสำรวจภาพรวมต่าง ๆ จากนั้นจึงติดต่อเข้าไปเพื่อขอทราบรายละเอียดการรับประกันและบริการหลังการขาย เมื่อพึงพอใจแล้วจึงเข้าไปดูรถของจริง

4. ต้องได้ทดลองขับ

                เมื่อตัดสินใจจะซื้อรถยกของในกรณีที่เป็นรถมือสองควรพาช่างที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปร่วมตรวจสอบสภาพรถด้วย เพื่อทดสอบฟังก์ชันการใช้งาน ระบบไฟ ระบบช่วงล่าง สภาพตัวถัง และที่สำคัญคือทดลองขับขี่ เพื่อให้แน่ใจว่ารถที่ต้องการเลือกซื้อนั้น อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และยังมีอายุการใช้งานได้อีกนาน

                การเลือกซื้อรถยกของนั้นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการตัดสินใจ เพราะนอกจากจะมีราคาสูงแล้ว การใช้งานยังมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นอย่าตัดสินใจซื้อเพียงเพราะราคาถูก หรือมีคนรู้จักแนะนำมา ควรตัดสินใจซื้อเมื่อสำรวจความต้องการของตัวเองและลักษณะหน้างานเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ได้รถที่ตรงกับจุดประสงค์มากที่สุด และที่สำคัญควรเลือกซื้อจากร้านที่ได้มาตรฐาน มีรถให้เลือกหลากหลายประเภท มีพนักงานที่มีความรู้ มีการรับประกัน และมีบริการหลังการขายที่ดี